ถุงขยะและถังขยะ

ถุงขยะ

ในชีวิตประจำวันของเรา เพื่อสุขอนามัยที่ดี ความสะอาดถือเป็นสิ่งสำคัญ การทำความสะอาดและกำจัดสิ่งสกปรก ออกจากบ้านจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเหมาะสม สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้ในการรวบรวมขยะหรือสิ่งสกปรกออกจากบ้าน คือ ถุงขยะ บางครั้งเราอาจจะนำถุงพลาสติกที่ได้รับจากการซื้อสินค้ามาดัดแปลงเป็นถุงขยะ แต่การที่จะหาถุงที่มีขนาดพอดีกับถังขยะที่เรามีนั้นบางทีอาจทำได้ยาก หรือความหนาอาจจะไม่เพียงพอรองรับปริมาณขยะ ทำให้เราจำเป็นต้องเลือกซื้อถุงขยะ เพื่อนำมาใช้งานโดยตรงให้เหมาะสมกับขนาดถังขยะ ปริมาณขยะ และประเภทของขยะที่เราทิ้ง โดยดูจากคุณสมบัติเหล่านี้

1.ขนาดของถุงขยะ ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อถุงขยะได้ไม่ยากตามร้านขายของทั่วไป ก่อนซื้อ เราจึงต้องทราบเบื้องต้นก่อนว่าถังขยะที่เราใช้นั้นมีขนาดเท่าไหร่ โดยการวัดขนาดคร่าวๆ โดยเอาความกว้าง x ความยาว x ความสูง เพื่อจะได้ทราบความจุของถังขยะ เพื่อเลือกซื้อถุงให้เหมาะสมต่อไป ขนาดของถุงขยะโดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 6 ขนาด

- ถุงขยะขนาด 18 x 20 นิ้ว เหมาะกับขนาดถัง 10 ลิตร

- ถุงขยะขนาด 24 x 28 นิ้ว เหมาะกับขนาดถัง 40 ลิตร

- ถุงขยะขนาด 28 x 36 นิ้ว เหมาะกับขนาดถัง 50 ลิตร

- ถุงขยะขนาด 30 x 40 นิ้ว เหมาะกับขนาดถัง 60 ลิตร

- ถุงขยะขนาด 36 x 45 นิ้ว เหมาะกับขนาดถัง 120 ลิตร

- ถุงขยะขนาด 45 x 60 นิ้ว เหมาะกับขนาดถัง 240 ลิตร

ความหนาของถุงขยะ

เราควรเลือกความหนาของถุงขยะให้สอดคล้องกับการใช้งาน  โดยดูได้จากประเภทและปริมาณของขยะที่เราทิ้ง ถ้าขยะโดยส่วนมากของเราเป็นขยะที่มีน้ำหนัก หรือมีปริมาณมาก ควรเลือกใช้ถุงที่มีความหนา เพื่อถุงขยะจะได้ไม่ขาดระหว่างที่ใช้งาน

ความหนาของถุงขยะ อาจถูกวัดเป็นมิลลิเมตรหรือไมครอน ถุงขยะที่มีความหนาก็จะมีความยืดหยุ่นที่ดีกว่า รับน้ำหนักได้มากกว่า ไม่ขาดง่าย

ประเภทขยะ ขนาด ml. (มิลลิเมตร) ขนาด μm (ไมครอน) ความยืดหยุ่น การรับน้ำหนัก
ขยะที่มีน้ำหนักเบา 0.30-0.49 300-490 ต่ำ น้อย
ขยะทั่วไป มีน้ำหนักพอสมควร 0.75-1.20 750-1200 กลาง กลาง
ขยะที่มีน้ำหนักมาก หรือมีคม 1.30-2.00 1300-2000 สูง หนัก

สีของถุงขยะถุงขยะมีหลายสี ซึ่งจะถูกนำมาใช้งานตามประเภทของขยะ

- ถุงขยะสีดำ สำหรับใส่ขยะทั่วไป ไม่ได้แยกประเภทของขยะ หรือ แยกประเภท เพื่อนำไปทิ้งลงถังขยะสีต่างๆตามประเภทอีกที

ช่วยบดบังขยะภายในได้เป็นอย่างดี หาซื้อได้ง่าย และมีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับสีอื่น ๆ

- ถุงขยะสีเขียว สำหรับใส่ขยะมูลฝอยที่สามารถย่อยสลายได้ หรือที่เรียกว่า ขยะเปียก เช่น เศษอาหาร ผัก ผลไม้

- ถุงขยะสีเหลือง สำหรับใส่ขยะรีไซเคิล ขยะเหล่านี้จะต้องสามารถนำกลับมาเพื่อใช้งาน ใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก

- ถุงขยะสีฟ้า สำหรับใส่ขยะมูลฝอยที่ย่อยสลายไม่ได้แต่ไม่เป็นพิษและไม่คุ้มค่าการรีไซเคิล เช่น พลาสติกห่อลูกอม ซองบะหมี่สำเร็จรูป ถุงพลาสติก โฟมและฟอล์ยที่เปื้อนอาหาร

- ถุงขยะสีแดง สำหรับใส่ขยะอันตราย เช่น สารเคมี วัตถุมีพิษ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ หรือขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาล

- ถุงขยะสีใส สำหรับใส่ขยะโดยทั่วไปในสถานที่ที่ต้องมีการดูและเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น สนามบิน เพื่อให้เห็นขยะด้านใน ทำให้สังเกตได้ง่ายว่ามีวัตถุต้องสงสัยที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่

การผูกปิดปากถุงบางคนอาจคิดว่าเรื่องของการผูกปิดปากถุงขยะไม่จำเป็น แต่เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่ใช้ผูกถุงขยะกลับเป็นอีกตัวเลือกสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อ ถุงขยะมีหลายรูปแบบ โดยทั่วไปจะเป็นถุงขยะสี่เหลี่ยมปลายตัดตรง จะไม่มีส่วนเฉพาะสำหรับผูกปิดปากถุง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ก็มีการพัฒนาถุงรูปแบบอื่นๆขึ้น เพื่อให้การผูกปิดปากถุงง่ายและสะดวก รูปแบบการผูกปิดปากถุงมีหลายแบบ ซึ่งจะมีรายละเอียดแจ้งไว้อย่างชัดเจนบนถุงบรรจุภัณฑ์ เช่น

- แบบมีสายรัด หรือมีเชือกมาให้ โดยกระตุกเชือกที่ให้ใาที่ก้นถุงเพื่อนำมาใช้ผูกหรือรัดปากถุง มักจำหน่ายในรูปแบบแพ็คบรรจุแบบม้วน ดึงใช้งานได้สะดวก

- แบบหูรูด ทำให้ทิ้งขยะได้เต็มถุงโดยไม่ต้องเหลือไว้สำหรับผูก

- แบบผูก ป้องกันกลิ่นเหม็นรบกวน พร้อมหูหิ้วในตัวสะดวกสำหรับการเคลื่อนย้าย บางรุ่นมีหูหิ้วในตัวสามารถทำเป็นหูผูกสองชั้นได้ป้องกันกลิ่นเหม็นรบกวนได้ดียิ่งขึ้น

ก้นถุง

- ก้นถุงแบบเรียบ

- ก้นถุงทรงกลม หรือ สตาร์ซีล จะรับน้ำหนักได้มากกว่าแบบเรียบเพราะก้นถุงมีพื้นที่มากกว่า

ชนิดของพลาสติก ปัจจุบันมีการเลือกใช้พลาสติกหลายชนิดเพื่อผลิตถุงขยะ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกได้มากขึ้น ทั้งเรื่องของคุณภาพ ราคา และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

พลาสติกมาตรฐาน
พลาสติก HDPE (High density Polyethylene) เป็นพลาสติก ทนความร้อนความเย็น ทำให้เนื้อถุงมีความแข็งแรง
พลาสติกรีไซเคิล ผลิตมาจากขยะพลาสติก ด้วยเครื่องจักรทันสมัย ช่วยลดปริมาณขยะได้
พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้ 100 %